เมนู

ข้าแต่พระองค์ผู้จอมสัตว์ เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐ
กว่านระ ด้วยกรรมนั้น ข้าพระองค์เสวยสมบัติแล้วได้บรรลุ
อรหัต.

ในกัปที่ 700 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 4 ครั้ง
มีพระนามว่าภูริปัญญา ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระปัจจุปัฏฐานสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบปัจจุปัฏฐานสัญญกเถรา

119. อรรถกถาปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน


อปทานของท่านพระปัจจุปัฏฐานสัญญกเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า
อตฺถทสฺสิมฺหิ สุคเต ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสร้างสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระ-
นิพพานเป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า

อัตถทัสสี ท่านได้บังเกิดในกำเนิดยักษ์ เพราะความที่ไม่ได้เข้าเฝ้าในขณะ
พระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ภายหลังเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า
ปรินิพพานแล้ว เขาจึงได้รับความเศร้าโศกเป็นอย่างมาก. จริงอยู่ ใน
ครั้งนั้น อัครสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น มีนามว่า สาวก
เมื่อจะพร่ำสอนเขาจึงกล่าวว่า การบูชาพระสารีริกธาตุของพระผู้มีพระ-
พระภาคเจ้า ย่อมมีผลมาก คล้ายกับทำการบูชาในขณะพระผู้มีพระภาคเจ้า
ยังทรงพระชนม์อยู่ อำนาจแห่งจิตที่เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อม
มีผลมากมาย จึงชักชวนเขาให้สร้างสถูปด้วยคำว่า ท่านจงสร้างสถูปเถิด.
ครั้นเขาได้บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นแล้ว จุติจากกำเนิดยักษ์
นั้นแล้ว ได้เสวยสวรรค์สมบัติในเทวโลก และจักรพรรดิสมบัติใน
มนุษยโลกแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดในเรือนอันมีตระกูลแห่ง
หนึ่งในพระนครสาวัตถี บรรลุนิติภาวะแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวช
แล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ในกาลต่อมา ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนเองได้ เกิดความ
โสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน
จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า อตฺถทสฺสิมฺหิ สุคเต ดังนี้. ถ้อยคำนั้นทั้งหมด
ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังแล. ส่วนในบทว่า ยกฺขโยนึ อุปปชฺชึ
นี้ มีวิเคราะห์ว่า ชื่อว่า ยักษ์ เพราะเมื่อจะเคี้ยวกินเพื่อนบ้านของตน
หรือสัตว์ทั้งหลายที่มาถึงเข้า ย่อมวิ่งไล่ขับจับ. กำเนิด คือชาติของพวก
ยักษ์ ชื่อว่า กำเนิดยักษ์. อธิบายว่า เกิดในกำเนิดยักษ์.
บทว่า ทุลฺลทฺธํ วต เม อาสิ ความว่า ยศที่เราได้รับแล้ว
นับว่าเป็นยศที่ได้มาโดยยาก. เราได้รับความล้มเหลว เพราะไม่ได้ทำ

สักการะแด่พระศาสดาผู้เป็นพระพุทธเจ้า. บทว่า ทุปฺปภาตํ ความว่า
ราตรีนั้นรุ่งสว่างได้โดยยาก, คือกระทำราตรีให้สว่างได้ยาก อธิบายว่า
เราทำปัญญาให้สว่างได้ยาก. บทว่า ทุรุฏฺฐิตํ แปลว่า ขึ้นได้ยาก. อธิบายว่า
การขึ้นไปแห่งพระอาทิตย์ยาก หรือการลุกขึ้นทำความเพียร ของเราก็ยาก
คำที่เหลือในที่ทุกแห่งมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน

ชาติปูชกเถราปทานที่ 10 (120)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระชาติ


[122] เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ประสูติจากพระครรภ์ แสงสว่าง
ได้มีอย่างไพบูลย์ และพื้นแผ่นดิน พร้อมทั้งสมุทรสาครและ
ภูเขาก็หวั่นไหว.

อนึ่ง พวกหมอดูพยากรณ์ว่า พระพุทธเจ้าจักมีในโลก
เป็นผู้เลิศกว่าสรรพสัตว์ จักรื้อถอนหมู่ชน (จากสังสารทุกข์).

เราได้ฟังคำของพวกหมอดูแล้ว ได้ทำการบูชาพระชาติ
ด้วยความดำริว่า การบูชาพระชาติเช่นนั้นไม่มี (อีก).

เรารวบรวมกุศลแล้ว ได้ยังจิตของตนให้เลื่อมใส ครั้น
เราทำการบูชาพระชาติแล้วพำกาลกิริยา ณ ที่นั้น.

เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือ ความเป็นเทวดาหรือมนุษย์
ในกำเนิดนั้น ๆ เราย่อมล่วงสรรพสัตว์ นี้เป็นผลแห่งการบูชา
พระชาติ.

แม่นมทั้งหลายผู้เป็นไปตามอำนาจจิตของเราย่อมบำรุงเรา
เขาไม่อาจยังเราให้โกรธเคือง นี้เป็นผลการบูชาพระชาติ.

ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้ทำการบูชาใดในกาลนั้น
ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลการบูชา
พระชาติ.

ในกัปที่ 3 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 34 ครั้ง
เป็นจอมแห่งชน มีพระนามว่าสุปาริจริยะ มีพละมาก.